นายวชิรวัฒน์ บานชื่น นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% โดยคาดว่าจะมีโอกาสที่ กนง.จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อในการประชุมที่เหลือของปีนี้อีก 2 ครั้งในเดือน ก.ย.และ พ.ย.ครั้งละ 0.25% ซึ่งจะทำให้สิ้นปี 65 ดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 1.25% เนื่องจากเงินเฟ้อไทยได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แต่จะยังไม่ปรับลดลงเร็ว เห็นได้จากเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.ค.อยู่ที่ 7.61% ลดลงจากเดือนก่อนหน้าและต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้
ทั้งนี้แม้ราคาน้ำมันโลกจะเริ่มลดลงแล้ว แต่ราคาน้ำมันในประเทศอาจไม่ลดลงเร็วนักโดยเฉพาะราคาขายปลีกดีเซล เนื่องจากกองทุนน้ำมันยังขาดดุลอยู่มาก ทำให้อาจต้องมีการจัดเก็บส่วนแบ่งเพื่อชดเชยการขาดทุน ขณะที่ค่าไฟฟ้าในช่วง 4 เดือนหลังของปีจะปรับเพิ่มขึ้น และมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในประเทศ บวกกับแรงกดดันจากฝั่งอุปสงค์ที่จะมีมากขึ้นในช่วงปลายปี จึงทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อไทยแม้จะชะลอลง แต่ยังอยู่ในระดับสูงคำพูดจาก ทดลองใช้ สูตรสล็อต
น.ส.ณิชนันท์ โลกวิทูล นักวิเคราะห์ อีไอซี กล่าวว่า อีกปัจจัยคือเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีกว่าคาดเล็กน้อย โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาไทยในปีนี้ขึ้น จาก 7.4 ล้านคน เป็น 10 ล้านคน และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะใช้มาตรการทางการเงินอื่น ๆ ในการเข้ามาดูแลครัวเรือนและธุรกิจกลุ่มเปราะบางที่อาจได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น โดยต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจะทำให้ครัวเรือนกลุ่มรายได้น้อยมีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้น ขณะที่กลุ่มรายได้ปานกลางอาจฟื้นตัวไม่ทันเงินเฟ้อ รวมทั้งมีธุรกิจหลายภาคส่วนที่การฟื้นตัวยังคงเปราะบาง เช่น การบิน รถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์
“ธปทคำพูดจาก เล่นเกมสล็อตออน. จะเลือกใช้มาตรการทางการเงินอื่น ๆ เพื่อเข้ามาดูแลกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ เช่น การคงการลดอัตราการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำที่ 5% การคงการขยายระยะเวลาชำระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล ไปจนถึงปี 66 และการปรับปรุงโปรแกรมการจ่ายหนี้ของคลินิกแก้หนี้เพื่อเพิ่มทางเลือกการผ่อนชำระมากขึ้น”
นายฉมาดนัย มากนวล นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัยกรุงไทย คอมพาส กล่าวว่า ประเมินว่า กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี หรือขึ้นอีก 0.25-0.50% เนื่องจากการส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น จากการที่คณะกรรมการเสียงข้างมากถึง 6 ต่อ 1 ท่าน ที่ลงมติให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% และมีกรรมการเสียงข้างน้อย 1 ท่าน เห็นควรให้ปรับขึ้นถึง 0.50% โดยเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างชัดเจนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น และมีโอกาสแตะระดับ 7-8 ล้านคนในปี 65